โดยหลักการฯ การแจ้งเตือนของกล้องวงจรปิดฟูจิโกะ และเคนโปร จะทำงานโดยการอัพโหลดภาพเหตุการณ์ เช่น ตรวจจับการเคลื่อนไหว, ตรวจจับการข้ามเส้น, ตรวจจับวัตถุต้องสงสัย, ในรูปแบบไฟล์วีดีโอ หรือภาพนิ่งไปยัง Miracle-eye Cloud Server โดยจะมีศูนย์กลางของมิราเคิล อายส์ คอยตรวจสอบ และประเมินสถานการณ์ให้ท่านตลอด 24 ชั่วโมง

ซึ่งระบบดังกล่าว สามารถรองรับกับกลุ่มลูกค้าที่ใช้กล้องวงจรปิดฟูจิโกะ และเคนโปร ทุกระดับไม่ว่าจะเป็น บ้าน, ร้านค้า, โรงงาน, โรงเรียน ฯลฯ. โดยเฟสแรก จะเริ่มที่ พื้นที่กรุงเทพ และปริมณฑล ส่วนเฟสต่อๆไป จะเริ่มเปิดในพื้นที่ต่างจังหวัดโดยผ่านสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คาดว่าจะครอบคลุมทั่วประเทศ ประมาณกลางปีนี้ 

1. ฟูจิโกะ / เคนโปร จ่ายค่าบริการรายเดือน ให้ใช้งานฟรี 3 เดือน
2. เกิดเหตุแล้ว ตำรวจสามารถไปถึงบ้านคุณภายใน 10-15 นาที
3. แจ้งความโดยไม่ต้องไปสถานีตำรวจ
4. หากเกิดเหตุ สามารถกดปุ่มขอความช่วยเหลือจากตำรวจด้วย มือถือ ของคุณ
5. แม้จะถูกขโมยเครื่องบันทึกไป หรือฮาร์ดดิสมีปัญหา แต่คุณยังคงมีข้อมูลที่ถูกเก็บไว้บน Miracle-eyes Cloud Server และไม่พลาดเหตุการณ์อยู่ในมือตลอด
6. มีตำรวจช่วยดูแลความปลอดภัย แม้คุณไม่อยู่บ้านเป็นเวลานานๆ
7. ในขณะที่คุณหลับอยู่ ตำรวจสามารถจับขโมยบุกรุกเข้าไปในบ้าน ก่อนคุณตื่น
8. มี application Miracle-eye บนระบบมือถือของท่าน โดยสามารถใช้งานได้กับมือถือทุก OS ( iOS, Andriod, Windoes Phone, Symbain )

1. ค่าธรรมเนียมแรกเข้า   590 บาท  (จ่ายครั้งเดียว)
2. ค่าบริการรายเดือน
   1. สำหรับบ้านพักอาศัยทั่วไป   300 บาท/เดือน/ 1 กล้อง ( กล้องต่อไปคิดจุดละ 50 บาท / กล้อง )
   2. สำหรับร้านทอง, มินิมาร์ท    500 บาท/เดือน/ 1 กล้อง ( กล้องต่อไปคิดจุดละ 50 บาท/กล้อง )
   3. สำหรับโรงงาน ,ห้างสรรพสินค้า   1,000  บาท/เดือน/ 1 กล้อง ( กล้องต่อไปคิดจุดละ 50 บาท/กล้อง )

จากสถิติอาชญากรรม การรับแจ้งทางสายด่วน 191 แต่ละปี มีการแจ้งมากกว่า 250,000 ครั้ง และมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงและซับซ้อนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในจำนวนนี้ มีคดีอยู่จำนวนมาก ที่ไม่พบพยาน หลักฐานในที่เกิดเหตุ ทำให้ยากต่อการจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้แม้จะมีการ ติดตั้งกล้องวงจรปิด ในกรุงเทพมหานครอย่างแพร่หลาย แต่ด้วยการดำเนินการที่ไม่เป็นระบบ และไม่มีศูนย์ปฏิบัติการแบบเบ็ดเสร็จ การใช้งานยังไม่ครอบคลุมทุกระบบ รวมถึงกล้องซึ่งมีจำนวนน้อยไม่เพียงพอ เป็นเหตุให้การป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ไม่ได้ผลเท่าที่ควร เพื่อรักษาความปลอดภัยแก่ชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน และการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.คำรณวิทย์  ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต. อดุลย์  ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะ CIO (Chief Information Officer) ด้านเทคโนโลยี ของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ร่วมกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยบริษัท TOT จำกัด (มหาชน) จัดทำ โครงการนวัตกรรมศูนย์สั่งการกล้องทีวีวงจรปิด เพื่อป้องกันปราบปราม อาชญากรรมแบบเบ็ดเสร็จ หรือ Miracle Eyes ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในการใช้ระบบ กล้องโทรทัศน์วงจรปิดติดตั้งทั่วกรุงเทพมหานคร

โครงการนวัตกรรมศูนย์สั่งการกล้องทีวีวงจรปิด เพื่อป้องกันปราบปรามอาชญากรรมแบบเบ็ดเสร็จ หรือ Miracle Eyes มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม สร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนและสังคม รวมถึงเป็นเครื่องมือ สนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในด้านการสืบสวนคดีอาญา ด้านการจราจร การควบคุมอุบัติเหตุจราจร ตลอดจนการพยานหลักฐานต่างๆ ได้มีประสิทธิภาพ และทันท่วงที ด้วยการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดทั่วกรุงเทพมหานคร โดยการนำระบบเทคโนโลยีใหม่ ของ TOT ซึ่งมีโครงข่ายสื่อสารโทรคมนาคมที่ทันสมัย และครอบคลุมมากที่สุดของประเทศ มาประสานเข้ากับการทำงานของระบบรับแจ้งเหตุ และขอความช่วยเหลือฉุกเฉินของตำรวจนครบาล โดยสถานีตำรวจนครบาล ทั้ง 88 แห่งทั่วกรุงเทพฯ จะติดตั้งระบบศูนย์สั่งการระบบทีวีวงจรปิด และมีเจ้าหน้าที่คอมเฝ้าระวังพื้นที่ ที่เข้าร่วมโครงการจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ ผ่านระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ที่แสดงภาพสดจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด หรือ CCTV ตามสถานที่ต่างๆ ที่ประชาชนหรือผู้ประกอบการติดตั้งกล้องไว้

ซึ่งช่วยเสริมประสิทธิภาพงานด้านการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามสถานีตำรวจนครบาลทั้ง 88 แห่ง โดยจะเชื่อมโยงมารวมไว้ ที่ศูนย์กลางการควบคุมสั่งการปฏิบัติการ ที่กองบังคับการตำรวจจราจร เพื่อประโยชน์ในการประสานการปฏิบัติ ระหว่างหน่วยงานต่างๆ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับระบบการทำงาน ของ Miracle Eyes ผ่านอินเตอร์เน็ต ความเร็วสูง ที่ความเร็วประมาณ 2-3 MB ขึ้นไป โดยโครงการนำร่อง จะสามารถให้บริการ 2 ระบบ คือ

1.       ระบบแจ้งเหตุ เพื่อให้แจ้งเหตุต่อศูนย์สั่งการได้ทันทีแบบ Real-Time โดยเมื่อมีเหตุผิดปกติ ประชาชนจะสามารถกดปุ่ม ขอความช่วยเหลือ ซึ่งระบบจะส่งสัญญาณไปยังศูนย์ที่กองบังคับการตำรวจจราจร โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตรวจสอบเหตุการณ์ จากนั้นจะแจ้งไปยังสถานีตำรวจในเขตที่รับผิดชอบ เพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจซึ่งอยู่ใกล้บริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อให้สามารถระงับเหตุได้อย่างรวดเร็ว

2.       ระบบแจ้งเตือน หรือระบบ LEASE LINE เพื่อดูแลความปลอดภัย ในขณะที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ เป็นระบบตรวจจับการเคลื่อนไหวอัตโนมัติ ด้วยกล้องวงจรปิด ซึ่งจะมีการตั้งค่าภาพปกติไว้ เมื่อมีสิ่งผิดปกติ หรือมีสิ่งบุกรุกที่แตกต่างจากภาพปกติ ระบบจะทำการส่งสัญญาณไปยังศูนย์ ที่กองบังคับการตรวจจราจร โดยเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเหตุการณ์ และเมื่อมีเหตุต้องสงสัย ก็จะแจ้งไปยังสถานีตำรวจที่รับผิดชอบ เพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่สายตรวจ ที่อยู่ใกล้บริเวณที่เกิดเหตุ พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะแจ้งไปยังโทรศัพท์เคลื่อนที่ของเจ้าของบ้าน

นับเป็นความสำเร็จ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งมีภารกิจสำคัญในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม สร้างความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินให้กับประชาชน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด และให้มีประสิทธิภาพสูงสุดในการรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน และสังคม วันนี้โครงการ Miracle Eyes หนึ่งในโครงการที่จะสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล ในการนำเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัย มาพัฒนาเพื่อสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เพิ่มประสิทธิภาพการป้องกับปราบปรามอาชญากรรม เพื่อสร้างกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ อย่างยั่งยืนตลอดไป ตามคำขวัญที่ว่า “ อยู่สุขเถิดประชา....ตำรวจข้าจะคุ้มภัย “

• เพื่อนำร่องระบบแจ้งเหตุร้ายผ่านอินเตอร์เน็ตด้วยกล้องวงจรปิด (CCTV) Miracle Eyes
• เพื่อเพิ่มมิติของข้อมูลเทคโนโลยีและสารสนเทศด้านข้อมูลภาพ ซึ่งจะช่วยให้ภาระกิจด้านการป้องกัน ภารกิจปราบปราม ภารกิจสืบสวนสอบสวน มีประสิทธิภาพดีขึ้น
• และเพิ่มความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจและความมั่นใจในการให้บริการแก่ประชาชนยิ่งขึ้น รวมถึงเพื่อเป็นการสร้างบริการใหม่ อันจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันปราบปราม ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

 ประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ

1. ความปลอดภัยสูงสุด
2. เมื่อมีเหตุสามารถแจ้งเหตุได้ทันที
3. แม้ไม่อยู่บ้าน มีคนร้ายบุกรุกบ้าน ก็สามารถแจ้งเหตุได้ด้วยกล้องทีวีวงจรปิด
4. เมื่อมีเหตุ เจ้าของบ้านสามารถรับรู้เหตุได้ทันทีทางโทรศัพท์มือถือ และมองเห็นภาพเคลื่อนไหวได้
5. ได้รับการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และเมื่อทรัพย์หายไปก็สามารถมีประกันภัย

 ประโยชน์ที่ตำรวจจะได้รับ

1. ได้รับแจ้งเหตุทันที เมื่อมีเหตุเกิด (ไม่ใช่แบบเดิทอีกแล้ว ที่เหตุเกิดแล้ว ตำรวจจึงได้รับทราบเมื่อประชาชนแจ้ง)
2. ได้รับแจ้งเหตุพร้อมภาพเคลื่อนไหว และเสียง สามารถมองเห็นภาพคนร้ายได้ชัดเจน
3. สามารถวางแผนระงับ ปราบปรามได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. มีพยานหลักฐาน ดำเนินคดีกับคนร้ายได้อย่างครบถ้วน
5. แม้คนร้านหลบหนี ก็สามารถเก็บภาพ และข้อมูลคนร้ายและสามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้ทุกราย
6. มีการพัฒนา โครงการการมิราเคิล อายส์ ... ให้ขยายและครอบคลุมพื้นที่มากยิ่งๆขึ้นทั่วประเทศ

1.  เมื่อประชาชน อยู่บ้าน... มีคนร้ายบุกรุก ระบบ มิราเคิล อายส์ จะแจ้งเหตุด้วยการ Sensor Tracking ( โดยวิธี กดปุ่ม หรือโดยระบบ Sensor )
2. เมื่อประชาชน ไม่อยู่บ้าน... มีคนร้ายบุกรุก ระบบ มิราเคิล อายส์ จะแจ้งเหตุด้วยการ  Sensor Tracking (โดยวิธีการ Sensor)
3. เมื่อประชาชน นอนหลับ... มีคนร้ายบุกรุก ระบบ มิราเคิลอายส์ จะแจ้งเหตุด้วยการ Sebsor Tracking (โดยวิธี ระบบ Sensor Red Light.)
4. สรุป คือ... ไม่ว่าประชาชนจะอยู่บ้าน  หรือไม่อยู่บ้าน  หรือนอนหลับ  ประชาชน ปลอดภัย