ข้อที่คนเข้มแข็งไม่ทำกัน
ReadyPlanet.com


ข้อที่คนเข้มแข็งไม่ทำกัน


 มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ผมรู้สึกเหนื่อยๆ ดาวน์ๆ จากเรื่องงาน ระหว่างที่คิดอะไรไม่ออก เลยลองไปเปิดดูบทความเก่าๆ ที่เซฟไว้ จนไปเจอบทความหนึ่งจาก Business Insider ชื่อ 13 Things Mentally Strong People Don’t Do หรือ 13 ข้อที่คนเข้มแข็งไม่ทำกัน ซึ่งผมเข้าใจว่าเนื้อหาเอามาจากหนังสือหนังสือชื่อเดียวกันนี้ของ เอมี่ มอร์ริน (Amy Morin)

โดยบทความนี้กล่าวว่า ความเข้มแข็งของจิตใจนั้นส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากสิ่งที่เราทำ แต่มาจากสิ่งที่เรา “ไม่ทำ” ต่างหาก และ เอมี่ มอร์ริน บอกว่านี่คือ 13 ข้อของสิ่งที่คนที่มีจิตใจเข้มแข็งจะไม่ทำกันครับ ลองมาอ่านกันดูนะครับว่าตรงกับสิ่งที่ท่านคิดไหม

คนเข้มแข็งจะไม่เสียเวลามารู้สึกเศร้าหรือเวทนาเรื่องของตัวเอง

เพราะมันเป็นการทำลายตัวเองอย่างหนึ่ง มันทั้งเสียเวลา ทำให้เกิดอารมณ์เชิงลบ และยังทำลายความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่นอีกด้วย หลักการในการต่อสู้กับความเวทนาในเรื่องตัวเองคือ ให้เห็นคุณค่าของสิ่งดี ๆ ที่เรายังมีอยู่

คนที่มีจิตใจเข้มแข็งจะไม่ยอมมอบอำนาจการจัดการชีวิตของเขาให้กับคนอื่นอย่างเด็ดขาด 

ไม่ว่าเรื่องอะไรจะเกิดขึ้น พวกเขาจะยืนหยัดต่อสู้ในเป้าหมายของพวกเขาและทำงานหนักเพื่อให้ได้มันมาที่ รัฐ มิสซิสซิปปี (Mississippi) ปี 1954 เวอร์นิต้า ลี (Vernita Lee) พนักงานทำความสะอาดคนหนึ่งได้ให้กำเนิดบุตรสาว โดยพ่อของเด็กไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว หลังคลอดไม่นาน เธอก็เดินทางไปเมืองอื่นโดยทิ้งหนูน้อยไว้กับยายและญาติๆ ด้วยความยากจนหนูน้อยคนนี้ต้องใส่เสื้อผ้าที่ทำจากกระสอบมันฝรั่งจนโดนเด็กคนอื่นๆ ล้อเลียนอยู่เป็นประจำ สล็อต pg

ชีวิตในวัยเด็กของเธอยากลำบากมาก แถมยังเคราะห์ร้ายต้องมาอยู่ในครอบครัวที่ศีลธรรมต่ำเตี้ย เธอโดนญาติ ๆ ของแม่ข่มขืนตั้งแต่ 9 ขวบ ผลจากการข่มขืนอันยาวนานทำให้เธอตั้งครรภ์ตอนอายุ 14 ลูกชายของเธอเสียชีวิตตั้งแต่ยังเป็นทารกหลังจากนั้นเธอตัดสินใจย้ายไปอยู่กับพ่อของเธอที่ แนชวิลล์ (Nashville) แม้พ่อของเธอจะเป็นคนที่ดุและเข้มงวดมาก แต่เขาก็สนับสนุนให้เธอได้เรียนหนังสือ เขาเคี่ยวเข็ญเรื่องการเรียนกับเธอมาก จนในที่สุด เธอก็ได้ทุนการศึกษาเพื่อเข้าเรียนที่ มหาวิทยาลัยเทนเนสซี่ (Tennessee State University) เธอเลือกที่จะเรียนนิเทศศาสตร์เพราะเป็นสายงานที่เธออยากยึดเป็นอาชีพ เธอพยายามหางานในวงการข่าวและทำหลายอย่างตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ 

เธอย้ายมาทำงานที่บัลติมอร์เป็นผู้ประกาศข่าวให้กับสำนักข่าวท้องถิ่นแห่งหนึ่ง แต่ทำได้ไม่นานก็โดนไล่ออก โดยโปรดิวเซอร์ให้เหตุผลว่า เธอไม่สามารถแยกอารมณ์ส่วนตัวออกจากเนื้อหาของข่าวได้ เพราะเธอดันไปร้องไห้ตอนอ่านข่าวเรื่องโศกนาฎกรรมข่าวหนึ่งเธอย้ายที่อยู่อีกครั้ง คราวนี้มาที่ชิคาโก โดยมาทำงานทอล์คโชว์รายการเล็กๆ ที่เรตติ้งอยู่ท้ายตาราง เพียงไม่กี่เดือนหลังจากที่เธอมา รายการนี้ก้าวมาเป็นรายการทอล์คโชว์อันดับหนึ่งของชิคาโก

ในช่วงแรก ๆ รายการของเธอเป็นรายการซุบซิบทั่วไป แต่ว่าในช่วงกลางยุค 90 เธอก็ปรับรายการครั้งใหญ่ให้มาเป็นรายการที่มุ่งจะพัฒนาผู้ชมในแง่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นความรัก สุขภาพ หน้าที่การงาน และจิตวิญญาณ เหมือนเป็นหนังสือพัฒนาตัวเอง แต่อยู่ในรูปแบบของรายการทีวี แม้ในตอนแรกเรตติ้งจะตกลงไปบ้าง เพราะคนชอบข่าวแบบซุบซิบมากกว่า แต่ด้วยคุณภาพรายการของเธอทำให้เรตติ้งกลับมาอย่างรวดเร็ว และคราวนี้รายการของเธอสร้างความแตกต่างอย่างแท้จริง

เธอมีอิทธิพลกับบรรดาแฟน ๆ ของเธออย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น หากเธอแนะนำหนังสือเล่มไหนก็ตาม หนังสือนั้นเล่มจะขึ้น Best Seller อันดับหนึ่งของประเทศในอีกไม่กี่วันถัดมาทันที หรือตอนที่เธอออกมาสนับสนุน บารัค โอบามา (Barack Obama) ในการลงเลือกตั้งประธานาธิบดี ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์กันว่าเธอทำให้เขาได้คะแนนเสียงมาอีกกว่า 1 ล้านเสียงเธอยังเป็นตัวตั้งตัวตีคนสำคัญในการหาเงินเพื่อช่วยเหลือเด็กให้มีโอกาสเข้าถึงการศึกษา โดยโครงการของเธอสามารถหาเงินเพื่อการกุศลได้มากถึง 300 ล้านเหรียญ ทอล์คโชว์ของเธอออกอากาสยาวนานถึง 26 ปี (1986 – 2011) และช่วยสร้างกำลังใจให้คนเป็นล้าน ๆ คน



ผู้ตั้งกระทู้ mii (lelemimi888-at-gmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2023-08-29 10:33:52


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล